วิจิตรศิลป์ ( fine art )
วิจิตรศิลป์ คืองานศิลปะที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความงาม ความพอใจ มากกว่าประโยชน์ใช้สอย อาจเรียกอีกอย่างว่า ศิลปะบริสุทธิ์ ( pure art ) เพราะศิลปินจะสร้างสรรค์งานขึ้นมาด้วยความพอใจ ความบริสุทธิ์ใจ มิได้หวังผลตอบแทนใดๆ หรืออาจเพื่อประโยชน์บ้าง แต่ก็เน้นความละเอียดลออในการสร้างสรรค์ให้วิจิตรพิสดารหรูหราเกินความจำเป็นแก่ประโยชน์ใช้สอย จึงอาจเรียกศิลปะสาขานี้ว่า ประณีตศิลป์
1. จิตรกรรม
จิตรกรรม ( painting ) คือการเขียนภาพลงบนวัตถุต่างๆ เช่น กระดาษ ไม้อัด ผ้าใบ ผนังปูน ฯลฯ สีที่ใช้ในการเขียน เช่น สีน้ำ สีโปสเตอร์ สีฝุ่น สีชอล์ก สีน้ำมัน สีอะคริลิก ผงถ่านคาร์บอน ภาพที่เขียนมีหลายลักษณะ เช่น ภาพคนเหมือน (portrait)
ภาพสัตว์ (animal) ภาพทิวทัศน์บก (landscape) ภาพทิวทัศน์ทะเล (seascape)
2. ประติมากรรม
ประติมากรรม ( sculpture ) หมายถึง งานศิลปกรรมที่สร้างเป็นรูปทรง 3 มิติ โดยวิธีการแกะสลัก การปั้น หรือการใช้หลายวิธีการร่วมกัน ได้แก่ การปั้น การแกะสลัก การหล่อ การทุบ การตี การเคาะ วัสดุที่ใช้ ได้แก่ ดิน ขี้ผึ้ง สบู่ ไม้ หิน ปูนปลาสเตอร์ โลหะต่างๆ งานประติมากรรมมีลักษณะเป็น 3 มิติ กล่าวคือ นอกจากความกว้างและความยาวแล้ว ยังมีความหนาหรือความลึกรวมทั้งปริมาตรของรูปทรงด้วยงานประติมากรรมแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ 

2.1. ประติมากรรมนูนต่ำ (bas - relief)
มีลักษณะเป็นเส้นร่องหรือเป็นแอ่งลึกลงไปเพียงเล็กน้อย หรือนูนจากพื้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยสามารถมองด้านหน้าได้เพียงด้านเดียว เช่น เหรียญ ศิลาจารึก ฯลฯ
2.2. ประติมากรรมนูนสูง ( high – relief )
คืองานที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวพื้นมากกว่าแบบนูนต่ำ สามารถมองเห็นด้านข้างของงานได้พอสมควร เช่น รูปแกะสลักเทพอัปสรแห่งนครวัด รูปแกะสลักที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฯลฯ
2.3. ประติมากรรมลอยตัว
เป็นงานที่มีลักษณะมองเห็นได้รอบด้าน เช่น รูปหล่อทหาร – ตำรวจที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พระประธานในพระอุโบสถ ฯลฯ
3. สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรม (architecture) หมายถึง การออกแบบก่อสร้างอาคารสถานที่ เช่น ที่อยู่อาศัย สาธารณสถาน ศาสนสถาน ฯลฯ โดยคำนึงถึงความสะดวกเหมาะสมกับการใช้สอย ความมั่นคงแข็งแรงความสวยงามน่าชื่นชม ซึ่งถ้างานก่อสร้างอาคารสถานที่แห่งใดมีความวิจิตรหรือประดับประดาสวยงามเกินจุด
มุ่งหมายแค่เพียงที่อยู่อาศัยหรือใช้สอยอื่นๆก์ยิ่งมีคุณค่าในทางวิจิตรศิลป์มากยิ่งขึ้น
4. ภาพพิมพ์
ภาพพิมพ์ (print) เป็นงานที่มีลักษณะเป็น 2 มิติบนพื้นระนาบคล้ายกับงานจิตรกรรม ต่างกันคือภาพพิมพ์จะต้องสร้างสรรค์บนแม่พิมพ์ก่อน แล้วจึงนำไปพิมพ์บนแผ่นภาพ การพิมพ์ภาพมีหลายเทคนิควิธีการ เช่น ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม (sillk screen) ภาพพิมพ์กัดกรด (etching) ภาพพิมพ์สเตนซิล (stencil) ภาพพิมพ์แกะไม้ (woodcut) ฯลฯ
5. สื่อผสม
สื่อผสม (mixed media) เป็นงานวิจิตรศิลป์ที่ผสมผสานงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ หรือเทคนิควิธีการต่างๆเข้าด้วยกัน อาจมีลักษณะเป็น 2 มิติหรือ 3 มิติก็ได้
6. ศิลปะภาพถ่าย
การถ่ายภาพ (photography) ที่จัดอยู่ในประเภทวิจิตรศิลป์นั้นเป็นการถ่ายภาพที่ใช้เทคนิคและวิธีการที่แปลกกว่าภาพถ่ายที่ทำให้ผู้ชมเกิคความคิดความเจริญทางสติปัญญา มีผลในทางสร้างสรรค์ มิใช่ภาพอนาจารหรือภาพถ่ายโดยทั่วไป
7. วรรณกรรม
วรรณกรรม (literature) หมายถึงงานประพันธ์ต่างๆทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง เป็นการแสดงออกถึงศิลปะในการใช้ภาษา โดยการเรียบเรียงถ้อยคำอย่างสละสลวยและเหมาะสม เพื่อถ่ายทอดความรู้ความคิดของผู้ประพันธ์ หรือเป็นการเล่าเรื่องหรือพรรณนาถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
8. ดนตรีและนาฎศิลป์
ดนตรี (music) หมายถึง ศิลปะที่แสดงออกโดยการเรียบเรียงระดับเสียงสูงต่ำที่ใช้ความรู้สึกและจินตนาการสร้างสรรค์ผสมผสานกันอย่างลงตัวผ่านเครื่องดนตรีชนิดต่างๆเพื่อให้เกิดความไพเราะ ส่วนนาฎศิลป์ (drama) เป็นการแสดงออกทางลีลา ท่าทางการรำ การแสดงโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อความงาม ความพอใจ งานศิลปะประเภทจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และศิลปะภาพถ่าย เป็นศิลปะที่เรารับรู้และชื่นชมได้โดยใช้ประสาทสัมผัสทางตาด้วยการมองเห็น เราจึงเรียกรวมศิลปะทั้ง 6 ประเภทนี้ว่า ทัศนศิลป์ (visual art) ส่วนศิลปะประเภทวรรณกรรมและดนตรีและนาฎศิลป์ เรียกว่า โสตทัศนศิลป์(audiovisual art)